ดอนเริ่มต้นงานของเขาในสมัยที่เป็นนักศึกษา กับตำแหน่งนักดนตรีในกลุ่มนักร้อง Living sound เขารักในการเล่นดนตรีโดยที่ไม่ได้นึกฝันจะเป็นนักร้องหรือผู้นำนมัสการมาก่อนเลย แต่หลังจากออกทัวร์และทำพันธกิจกับ Living Sound ถึง 15 ปี ดอนก็ได้ตอบสนองการทรงเรียกของพระเจ้า โดยตอบรับคำเชิญของ Michael Coleman ผู้ก่อตั้งบริษัท Integrity Music ให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เพื่อเป็นผู้ถ่ายทอดความหวังและความรักของพระเจ้าไปสู่คนผ่านบทเพลงนมัสการ
เขามีผลงานเพลงแรกกับ Hosanna! Music ซึ่งเป็นค่ายเพลงย่อยของ Integrity Music ชื่ออัลบั้ม Give Thanks ในปี1986 ซึ่งจำหน่ายได้มากกว่า 900,000ชุดซึ่งถือว่าขายดีมากสำหรับเพลงคริสเตียน และทำให้ผู้คนเริ่มรู้จักดอน โมเอน ในฐานะผู้นำนมัสการเป็นครั้งแรก
จากนั้น ดอนได้ออกอัลบั้มกับ Hosanna! Music อย่างต่อเนื่องอีกถึง 10 อัลบั้ม และมีผลงานเดี่ยวของตนเองออกมาในปี 1992 ชื่อ Worship with Don Moen ซึ่งถือได้ว่า เป็นอัลบั้มที่รวมเพลงยอดนิยมในยุคแรกของดอนเอาไว้ และมีการแปลเป็นเพลงไทยหลายต่อหลายเพลง จนได้รับรางวัล Dove Awards ในสาขา Inspirational Album of the Year เลยทีเดียว
หลังจากนั้น ดอน ได้มีอัลบั้มออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งอัลบั้มกับ Hosanna! Music หรืออัลบั้มเดี่ยว รวมถึงอัลบั้มที่ผสานความเป็น Musical ที่มีการเล่าเรื่อง หนุนน้ำใจ และคำเทศนา เข้าไปในคอนเสิร์ต จากอัลบั้มอย่าง Mighty Cross, Emmanuel has Come หรือ God for Us ทำให้เพลงของ Don Moen เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ดอนยังได้เคยร่วมงานกับศิลปินระดับโลกมากมายในอัลบั้มสดชุด God is Good - Worship with Don Moen ที่มีความสวยงามทั้งทางด้านดนตรีและการนมัสการ โดยมีการผลิตออกมาเป็นวีดีโออีกด้วย
นอกจากจะเป็นนักแต่งเพลงและผู้นำนมัสการแล้ว ดอนยังเป็น producer ให้กับศิลปินคริสเตียน และผู้นำนมัสการอีกมากมายในสังกัด Integrity Music อย่าง Lenny Leblanc, Paul Baloche, Martin J. Nystrom, Ron Kenoly และศิลปินใหม่ๆ อีกมากมาย รวมทั้งยังได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารของ Integrity จนทำให้ช่วงหลังๆ นี้ไม่ค่อยได้มีผลงานออกมาให้เห็นบ่อยเท่าช่วงแรกๆ (ประมาณ 2 ปี ต่อ 1 อัลบั้ม)
แต่ถึงแม้เขาจะประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ดอนยังกล่าวถึงตนเองว่า เขาควรจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่พระเจ้าเรียกให้เขาทำก่อน ซึ่งก็คือการแต่งเพลงและการนำนมัสการ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถปฏิเสธการทรงเรียกนี้ได้ จนทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากบริษัท Integrity ที่เขาทำงานมากว่า 20 ปี จนมีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัท และตำแหน่งสำคัญอื่นๆ มากมาย โดยไม่คำนึงถึงความมั่นคงทางการเงินมากไปกว่าการที่เชื่อว่าพระเจ้าจะได้ใช้ชีวิตของเขาตามการทรงเรียก โดยการกลับมาทำเพลงและเป็น producer อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งในอัลบั้มล่าสุดของตัวเองชื่อ I Believe There is More (2008)ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การแต่งเพลง การเลือกเพลง เลือกนักร้องนักดนตรี และความคิดสร้างสรรค์ที่แม้เป็น studio album แต่ก็ได้ผลิตออกมาในบรรยากาศเหมือนเป็นรอบการนมัสการสดที่มีการคัดสรรและเรียบเรียงเพลงออกมาได้อย่างลงตัว ปัจจุบันนี้ ดอน โมเอน มีงานหลักเป็นการแต่งเพลงและทัวร์คอนเสิร์ตนมัสการไปตามที่ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Don Moen Company ที่ให้บริการด้านสื่อที่เกี่ยวข้องกับการนมัสการในทุกรูปแบบ
ดอนกล่าวว่า “เรามีสองทางเลือกในการใช้ชีวิต คือด้วยความกลัว หรือด้วยความเชื่อ เมื่อเรารู้ว่าพระเจ้าเรียกเราให้ทำสิ่งบางสิ่งอย่างเจาะจง เราสามารถลงมาทำหน้าที่นั้นได้อย่างเต็มที่ ยิ่งมีสิ่งที่เราจะต้องจ่ายราคาเท่าไหร่ เรายิ่งจะต้องใช้ความเชื่อมากขึ้นเท่านั้น” “พระเจ้ายังคงเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเราอยู่ แม้เราจะผิดพลาด พระองค์ก็จะนำทางเรากลับมาสู่จุดหมายที่พระองค์ประสงค์ให้เราไปถึงทุกครั้ง นี่จึงเป็นเหมือนความหวังแท้ในชีวิตของเราทุกคน”
ผลงานเพลง
รางวัลที่เคยได้รับ
Dove Awards ชนะเลิศ
1994 : Creator - Musical Album of the Year "God with Us"
Dove Awards ได้รับการเสนอชื่อ
1992 : Song of the Year "God Will Make A Way"
1992 : Creator - Children's Musical Album of the Year "I'm A Helper"
1993 : Artist - Inspirational Album of the Year "Worship with Don Moen"
1995 : Creator - Musical Album of the Year "Mighty Cross"
1998 : Creator - Musical of the Year "Emmanuel Has Come"
1999 : Creator - Musical of the Year "God for Us"
2001 : Spanish Language Album of the Year "En Tú Presencia"
2003 : Country Recorded Song of the Year "God Is Good All The Time"
2003 : Creator - Musical of the Year "God in Us"
2004 : Spanish Language Album of the Year "Trono de Gracia"
ตัวอย่างเพลง
Give thanks
God with us
God will make a way
I will sing
River of Love
Deeper in Love