IHOP ความหลงใหลอันสง่างาม
Interview with Misty Edwards: IHOP's "Magnificent Obsession"
แปลจาก Worship Musician Magazine
บทสัมภาษณ์ Misty Edwards ผู้นำนมัสการคนหนึ่งใน International House Of Prayer ในเมือง Kansas City ที่ที่มีการอธิษฐานโดยใช้ดนตรีร่วมกันการอธิษฐานวิงวอนอย่างต่อเนื่องมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา
ถาม มิสตี้ คุณอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เริ่มมีการอธิษฐานนมัสการ 24 ชั่วโมงเลยใช่ไม๊?
มิสตี้ ใช่ เราเริ่มเมื่อปี 1999 ฉันเป็น 1 ใน 5 เด็กฝึกงานตอนนั้น
ถาม อะไรทำให้เกิดความคิดนี้ขึ้น และคุณได้คาดหวังว่ามันจะโตอย่างต่อเนื่องแบบนี้รึเปล่า?
มิสตี้ มันถูกเผยวจนะเมื่อช่วงปี 80 ว่าจะมีนิเวศอธิษฐาน 24 ชั่วโมงต่อวัน 7วันต่อสัปดาห์ ที่นำโดยคณะนักร้องนักดนตรีเกิดขึ้น คริสตจักรที่ Mike Bickle นำอยู่ตอนนั้นมีพระสัญญานี้แขวนอยู่ที่กำแพงห้องอธิษฐาน พวกเขามีห้องอธิษฐานที่นั่นตลอด 16 ปีก่อนจะเริ่มต้นมี IHOP
เหมือนพวกเรารู้ว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะออกมารูปแบบไหน หรือหมายความว่ายังไงที่จะอธิษฐานนมัสการ 24 ชั่วโมง 7 วัน ฉันไม่รู้ว่าจะมีใครเข้าใจไม๊ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ตอนเราเริ่มในปี 1999 แต่มันเป็นเหมือนผลแห่งพระสัญญาแห่งการเผยวจนะ ตลอดทั้ง 16 ปีก่อนจะเริ่ม IHOP ไมค์ได้เริ่มค้นข้อพระคัมภีร์ หลักพื้นฐานพระคัมภีร์ และใช้เวลามากในการอธิษฐาน มันจึงเป็นเหมือนการพัฒนาไปอย่างเป็นธรรมชาติสำหรับเขา
ฉันย้ายมาที่นี่ในปี 1998 เลยไม่ได้คุ้นกับประวัติมากนัก แต่เมื่อตอนเริ่มต้น แค่ความคิดที่จะได้พบพระเจ้าในที่ที่เราจะได้ร้องเพลงให้พระองค์ตลอดวันตลอดคืนไม่มีการหยุด มันก็ทำให้ฉันประปรี้กระเปร่ามาก ฉันเป็นแค่วัยรุ่นปกติและฉันก็คิดจินตนาการถึงแต่สิ่งนี้
ถาม แล้วสไตล์การนมัสการและอธิษฐานวิงวอนแบบ IHOP เป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณรึเปล่า หรือคุณคุ้นกับความคิดแบบนี้อยู่แล้ว
มิสตี้ โอ้ มันเป็นเรื่องใหม่หมดสำหรับฉันเลย ฉันเป็นคริสเตียน ที่เคยนมัสการแบบคาริสมาติก อย่าง Vineyard มาบ้าง มันส่งผลต่อฉันมาก อย่างผู้นำนมัสการเช่น Kevin Prosch และ Dave Ruis และนักร้องแนวเผยวจนะอย่าง Joann McFatter และ Julie Meyer ฉันรู้จักแนวการนมัสการแบบนั้น แต่ความคิดที่จะนมัสการ 24 ชั่วโมง 7 วัน นี่มันประหลาดและน่าตื่นเต้นมาก
ถาม มิสตี้ เรารู้ว่ามันไม่มีสูตรสำเร็จในการเข้าสู่การทรงสถิตพระเจ้า แต่ที่คุณนำนมัสการในห้องอธิษฐาน มีสิ่งใดบ้างที่คุณสังเกตว่ามันสามารถทำให้เคลื่อนหัวใจให้เข้าสู่การทรงสถิตได้
มิสตี้ อย่างที่คุณบอก ฉันก็ไม่รู้ว่ามีสูตรสำเร็จอะไรไม๊ แต่สำหรับฉัน มันคือการ ร้องพระคำ เพราะว่าเราร้องกันเยอะมาก และประมาณ 50% เป็นเพลงจากใจ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราสดใหม่คือผ่านการนมัสการจากใจ เรามักคิดทำนองและเนื้อร้องใหม่ๆ ทางคอร์ดใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างความสดใหม่ให้เรา
แต่ว่าในเพลงจากใจเรามีการร้องเพลงจากพระคัมภีร์ ไม่ใช่ร้องคำต่อคำหรือสวดข้อพระคัมภีร์ แต่เป็นการพัฒนาขยายความ จริงๆแล้วคือเรามี การเรียนพระคัมภีร์โดยการร้องเพลง
เราเลือกพระคัมภีร์มายกตัวอย่างเช่นสดุดี หรืออะไรก็ได้ แล้วใช้เวลา 2 ชั่วโมงตีความแตกประเด็นบรรทัดต่อบรรทัด ผ่านเพลงจากใจ นี่ทำให้เราสดใหม่ รวมถึงการนำการทรงสถิตพระเจ้าลงมา ฉันเคยได้ยินมาจากไหนซักแห่งว่า “รถรบที่ดีที่สุดที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทับคือพระคำพระเจ้า” เพราะงั้นการร้องพระคำพระเจ้า จึงอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ฉันได้พบการทรงสถิต
ถาม ในทางปฏิบัติ ได้มีเวลาซ้อมร่วมกันไหม และทำกันอย่างไร
มิสตี้ เราเน้นมากเรื่องความดีเลิศ เรามีทีมนมัสการ 14 ทีมที่นำในห้องอธิษฐานหลัก (มีห้องอธิษฐานอื่นอีก 4 ห้อง) แต่ละทีมมีคนประมาณ 10 คน แต่ละทีมซ้อมกันสัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครั้ง ซ้อมเรียบเรียงเพลงต่างๆ ให้แน่นขึ้น เราซ้อม 50% ในส่วนที่ไม่ใช่เพลงจากใจ
ถาม ผมอยู่ในทีมนมัสการเหมือนกัน บางครั้งจะเกิดความผิดพลาดที่คุมไม่ได้ขึ้น คุณเคยมีในห้องอธิษฐานไหม และคุณทำอย่างไร
มิสตี้ เรามีบ่อยเกินคุณจะคาดคิดได้เลยล่ะ แต่อย่างหนึ่งที่นี่คือเราหยุดไม่ได้ นี่ไม่ใช่ที่ที่เราจะหยุดแล้วบอกว่า อุ๊ย เราเล่นผิด นี่ไม่ใช่มารวมๆกันเล่น และไฟไม่สามารถดับได้ (ไฟ หมายถึงบทเพลง) ดังนั้นถึงมีความผิดพลาดขึ้นเราก็ต้องไปต่อ หลายครั้งเราแค่หันมายิ้มกันแล้วก็ไปต่อ และเราจะมีการคุยถามตอบกันหลังจากเล่นทุกครั้ง ทั้งทีมจะคุยกัน 10 ถึง 30นาที เราจะยกประเด็นขึ้นมาตอนนั้น เราพลาดบ่อยกันบ่อยมากเพราะฉันหนุนใจให้ทีมนมัสการกล้าเสี่ยง แปลว่าคุณจะพัง...บ่อยมาก แต่คุณจะไม่มีทางบินได้ถ้าคุณไม่เสี่ยงเลย มันก็เป็นเหมือนงูกินหางกันไป
ถาม จริงด้วย ผมว่ามันเป็นช่วงแห่งการเติบโตมากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเข้าทีมใหม่
มิสตี้ เป็นไปได้ บางคนอึดอัดมากกับช่วงเพลงจากใจ แต่ผ่านไปหลายคนก็เติบโตจากสิ่งนี้
ถาม ส่วนตัวผมชอบช่วงจากใจ
มิสตี้ เหมือนกัน ช่วงโปรดเลย
ถาม คุณเคยได้ยินความคิดเกี่ยวกับการนมัสการแนวพระคำนี้แตกออกไปสู่กลุ่มอื่นบ้างไหม อาจเป็นคนมาเยี่ยมห้องอธิษฐาน มาแล้วรับไว้ แล้วเอาไปลองพัฒนาในคริสตจักรตัวเอง
มิสตี้ เรามีแขกมาจากทั่วโลก ประมาณ 500 ถึง 1500 คนทุกสุดสัปดาห์ แต่โดยมากคือมาจากอเมริกา จากนั้นพวกเขากลับบ้านไป เริ่มกลุ่มอธิษฐาน โดยใช้แบบอย่างของเรา เพราะเน้นร้องพระคำและเพลงจากใจอาจไม่เหมาะกับรอบนมัสการวันอาทิตย์ คนจึงนัดกลุ่มอธิษฐานหรือเรียนพระคัมภีร์กันระหว่างสัปดาห์และใช้แบบอย่างจากเรา
คือฉันเห็นมันเกิดขึ้นทั่วประเทศนี้และที่ต่างๆ ทั่วโลก คริสตจักรที่มีห้องอธิษฐานและกลุ่มอธิษฐานเกิดขึ้นทุกที่จริงๆ
ถาม มันเยี่ยมมาก อย่างนี้ถ้าใครสนใจอยากจะทำบ้าง มาถามว่า “แล้วอะไรคือแบบอย่างในการนมัสการรูปแบบนี้” คุณจะแนะนำอย่างไร
มิสตี้ เราเรียกรูปแบบนี้ว่า “พิณและขันทองคำ” (harp & bowl) ฉันอธิบายได้ละเอียดยิบเลยนะ แต่เอาง่ายๆคือใน เซต 2 ชั่วโมง เราจะนมัสการประมาณ 20-30 นาที จากนั้นให้คนมาพูดแนะนำข้อพระคัมภีร์สัก 2-3 ข้อ (ออกไมค์) เช่น สดุดี เราก็โต้ตอบกันระหว่างการพูด และการร้อง ผู้อธิษฐานจะอธิษฐานในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์นั้น 2-3 ประโยค จากนั้นเราก็จะร้องเพลงที่เกี่ยวข้องกับข้อพระคัมภีร์นั้น
ยกตัวอย่าง คนอ่าน “พระองค์เป็นผู้เลี้ยง ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน” จากนั้นผู้อธิษฐานพูดว่า “พระองค์เป็นผู้เลี้ยงของข้าพเจ้า” จากนั้นเราก็ยกมาร้องเป็นเพลง ... “พระองค์ดูแลฉัน ทรงนำฉันไป พระองค์ควบคุมทุกสิ่ง...” จากนั้นเราพูดข้อถัดไป “ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน” “...พระองค์ประทานทุกสิ่งให้เรา พระเจ้าควบคุมดูแลการเงินเรา...” คือว่า เราร้องในประเด็นที่ว่า ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
หรือว่า ถ้าเป็นการอธิษฐานวิงวอน ผู้นำอธิษฐานจะยกข้อพระคัมภีร์ หรืออาจจะพูดว่า “โอพระเจ้า ขอพระองค์เข้ามาใน Kansas City ด้วยพระวิญญาณแห่งสติปัญญา และการสำแดง...” พอหยุด เราก็เริ่มร้องตามภาระใจนั้น
ถาม ผมสังเกตว่านักร้องคุณสลับกันร้องด้วย
มิสตี้ ใช่ มันคือการร้องโต้ตอบกัน เขาจะร้องกันเป็นช่วงสั้นๆ เพื่อทุกคนจะได้มีส่วน และจะไม่ต้องไปคนเดียวตลอด 20 นาทีอะไรอย่างนี้ มันจะเป็นเหมือนบทสนทนาผ่านบทเพลง เกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์หรือหัวข้ออธิษฐาน และเรานำทุกสิ่งไปที่พระเจ้าเป็นคำอธิษฐาน พวกเขาร้องสั้นๆแล้วผู้นำอธิษฐานจะเข้ามาอีก ตามด้วยนักร้องอีกคน จากนั้นเราจะร้องท่อนคอรัสเพื่อให้ที่ประชุมได้มีส่วนร่วม เราร้องซ้ำเพื่อให้คนร้องตามได้ เป็นเหมือนการใคร่ครวญพระคำในภาพรวม
ถาม และนี่มาจากการนมัสการที่ตั้งขึ้นโดยกษัตริย์ดาวิดในสมัยนั้นใช่ไม๊
มิสตี้ ใช่ นั่นเป็นแรงบันดาลใจหลักที่เราได้รับ คำเผยวจนะที่เราได้รับเกี่ยวกับนิเวศอธิษฐานนี้คือ “มีวิญญาณของเต็นท์ของดาวิด” กษัตริย์ดาวิดมีนักร้องนักดนตรี 4000 คนรับใช้เต็มเวลา 24 ชั่วโมง และมีผู้อื่นในประวัติศาสตร์ที่ทำนิเวศอธิษฐานนมัสการแบบนี้อยู่เหมือนกัน
ถาม ขออีกคำถามเกี่ยวกับ IHOP คือเมื่อคุณอธิษฐานนมัสการ 24 ชั่วโมงขนาดนั้น มันต้องส่งผลต่อชุมชนบ้าง คุณเคยได้ยินว่าชุมชนคุณได้รับผลในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่บ้างไหม
มิสตี้ เราอยู่เขต Grandview ชานเมือง Kansas City เมืองได้รับผลอย่างช้าๆ เรามีมหาวิทยาลัย IHOP ในละแวกนี้ อัตราอาชญากรรมลดลงเรื่อยๆ ตอนนี้เรามีกลุ่มงานรับใช้ใหม่ชื่อ Love Grandview ที่จะจับกลุ่มเด็กไฮสคูล และตามละแวกบ้าน เมื่ออธิษฐานอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศฝ่ายวิญญาณเปลี่ยนไปมาก ฉันไม่มีสถิติแต่ได้ยินมาและมีการบันทึกว่าอัตราของอาชญากรรมลดลง และราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้น ที่นี่เคยเป็นเมืองหนึ่งที่กำลังจะตายและเรากำลังเปลี่ยนมันกลับ
ถาม มันน่าตื่นเต้นมาก เอาล่ะ คุยกันเรื่องดนตรีของคุณดีกว่า มีเพลงของสองสามเพลงคุณรวมอยู่ใน CD One Thing Live และ Simple Devotion จากนั้นคุณก็มี CD ของตัวเอง เพลงของคุณมาจากการร้องเพลงจากใจในห้องอธิษฐานมากแค่ไหน
มิสตี้ ไม่รู้ว่าผู้นำนมัสการคนอื่นเป็นยังงัยนะ แต่ของฉันมันประมาณ 90% ได้ ในช่วงแรกๆ ฉันร้องเพลงวันละ 6-8 ชั่วโมงในห้องอธิษฐาน ฉันมักจะมีเมโลดี้ใหม่ๆ และไอเดียการร้องเพลงจากใจใหม่ๆ ฉันจึงใช้นำช่วงเวลาเหล่านั้นมาซ้อมต่อที่ห้องซ้อมหรือที่บ้าน ทำงานกับมันและเขียนออกมาเป็นเพลง
ถาม มีเพลงนึงที่เด่นออกมาจาก One Thing: Magnificent Obsession ชื่อเพลง Measure of a Man ที่ทำร่วมกับ David Brymer มันสวยงามมาก
มิสตี้ ขอบคุณมาก ท่อนคอรัสนั้นฉันร้องจากเพลงจากใจ ก็จับใส่ไปเลย จากนั้นก็ได้ไปซ้อมกับเดวิด เล่นคอรัสอีก 2-3 ท่อนที่ฉันกำลังแต่งอยู่ เราเขียนด้วยกันในห้องซ้อม ก็ได้ท่อนแรกมาที่นั่น แต่มันเกิดมาจากห้องอธิษฐาน
ถาม เครื่องหลักคุณคือคีย์บอร์ด เปียโน ใช่ไหม
มิสตี้ ใช่ ฉันอยากเล่นกีตาร์ได้ ฉันว่าฉันมีวิญญาณมือกีตาร์อยู่ แต่ฉันไม่มีเวลาพัฒนาทักษะนั้น
ถาม ในห้องอธิษฐานใช้คีย์บอร์ดยี่ห้ออะไร และส่วนตัวคุณชอบอะไร
มิสตี้ ฉันเลือกไม่ได้มากหรอก เราใช้คีย์บอร์ด Yamaha ในห้องอธิษฐาน แต่ฉันอยากได้เปียโนจริงมากกว่า (หัวเราะ) ถ้าให้เลือกได้ฉันคงอยากเล่นเปียโนจริงมากกว่า แล้วก็ฉันจะไม่ใช้โปรแกรมเลย มือคีย์บอร์ดบางคนใช้ แต่ฉันไม่มีเวลาเรียนรู้การใช้โปรแกรมอะไรเลย
ถาม CD Magnificent Obsession ถูกบันทึกในงานสัมมนา One Thing คนหนุ่มสาวที่ร่วมสัมมนามีเยอะไหมที่เข้าร่วมทีมกับ IHOPหลังจากนั้น
มิสตี้ มีหลายคนเลย หลายคนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยของเรา หรือมาเพื่อฝึกงาน มีการฝึกงาน 4 ประเภท ถือเป็นการเตรียมตัวสู่การร่วมงานที่นี่ One Thing ถือเป็นที่แรกที่คนจะได้รู้จัก IHOP และตัดสินใจว่าจะมาหรือไม่
ถาม มิสตี้ แล้วตัวคุณเองล่ะ ใน 13 ปีที่ผ่านมาคุณได้รับหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างผ่านการรับใช้ในห้องอธิษฐานที่ IHOP
มิสตี้ โห ฉันไม่รู้จะเริ่มยังงัยเลย ตอนนั้นฉันเด็กมาก... แค่ในสามปีแรกทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว มันฟังดูฟุ้งเฟ้อมาก (หัวเราะ) แต่ฉันมองโลกไม่เหมือนเดิม เป็นเพราะว่าฉันได้ร้องพระคำ และสมัยนั้นกลุ่มมีขนาดเล็ก ไม่ใช่นำคน 25000 คนหรือมีกลุ่มขนาด 3000 คนในมหาวิทยาลัย เราเริ่มกันเล็กมาก มันจึงเหมือนเป็นการร้องเพลงถวายพระเจ้าองค์เดียว จากการร้องพระคำ ฉันได้ต่อติดกับพระเจ้าเป็นครั้งแรกในชีวิต วันละ 6 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง 10 ชั่วโมงที่สัมพันธ์กับพระเจ้า จากนั้นสิ่งเล็กๆ ก็เริ่มดูเล็กน้อย สิ่งใหญ่ๆ ก็เริ่มมองเห็นใหญ่ขึ้น ฉันเริ่มเห็นทางที่จะมีผลต่อชุมชน ซึ่งมันทำไม่ได้ถ้าไม่มีคำอธิษฐานหรือการทรงสถิตพระเจ้า มุมมองการรับใช้เปลี่ยนใหม่หมด โลกฉันเปลี่ยนไป ดนตรีเปลี่ยนไป มีบางช่วงเวลาที่ในห้องอธิษฐานไม่มีใครอยู่เลยนอกจากทีมนมัสการ
ถาม ถ้าใครไม่สามารถมา Kansas City เพื่อเยี่ยมห้องอธิษฐานได้ เขาก็ดูผ่าน online ได้ใช่ไหม
มิสตี้ ใช่ เรามี web stream ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน www.ihopkc.org คุณเข้าไปดูได้เลย บางคืนฉันตื่นมากลางดึกเปิดดูว่าเราเป็นยังงัยกันบ้าง
ถาม มิสตี้ คุณมีคำแนะนำให้ผู้นำนมัสการที่อยากจัดตั้งการนมัสการแบบนี้ หรือการมีนิเวศอธิษฐานในกลุ่มของเขาเองอย่างไรบ้าง ถ้าเป็นคริสตจักรที่ไม่คุ้นเคยกับรูปแบบพิณและขันทองคำ หรือร้องพระคำและร้องเพลงโต้ตอบ
มิสตี้ ฉันว่าให้ขออนุญาตให้เริ่มมีกลุ่มอธิษฐานในช่วงระหว่างสัปดาห์ที่ไม่เอิกเกริกเหมือนรอบวันอาทิตย์ ให้เริ่มโดยกลุ่มเล็กๆ มีทีมนมัสการกับนักร้อง 2-3 คนก่อน ถ้าคุณทำได้เป็นประจำเมื่อไหร่ให้ค่อยๆ เพิ่มจำนวนทีละนิดไปเรื่อยๆ มันจะส่งผลต่อการนมัสการวันอาทิตย์ด้วยเพราะมันจะล้นออกมา และจะไม่สร้างความขัดแย้งให้ที่ประชุม แบบนี้คนที่อยากมาก็จะมา คนที่ไม่สนใจก็จะไม่ถูกกดดันให้เข้าร่วม มันจะสะดวกและผ่อนคลายต่อทุกคน และคุณจะรู้ด้วยว่าคนอยากจะมีส่วนร่วมมากน้อยเพียงใด
ถาม และจะได้รู้ว่านักร้องและทีมนมัสการจะทำกันแบบไหนด้วย
มิสตี้ ใช่ ถ้าเขาไม่เคยทำกันมาก่อน มันต้องใช้เวลากว่าจะเคยชินกับมันและเข้ากับจังหวะของมัน เพราะงั้นจึงควรทำในกลุ่มเล็กๆ ก่อนจะดีกว่า