Thailand Worship Network

สวัสดีครับทุกท่าน   ขอตอนรับสู่ TOV  INTERVIEW กันอีกครั้ง ระหว่างปั่นต้นฉบับนี้อยู่ สายฝนก็เริ่มโปรยปราย ลงมาบ้างละ นัยว่าจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนอีกครั้ง   หวังว่าพี่น้องทุกคนยังแข็งแรงกันดีอยู่นะครับ

ครั้งนี้ TOV INTERVIEW ได้รับเกียรติจากพี่น้อง ที่ทำงานด้านนมัสการ คือ Thailand Worship Network เอาล่ะ อินโทรกันพอละ พบกับพวกเค้าเลย!!!

Henry : ช่วยแนะนำตัวด้วยครับ

TWN : ผม นิว  เศรษฐา จิตติอรุณชัย ปัจจุบันเล่น กีต้าร์ , กลอง และนำนมัสการครับ   ส่วนนี่ พี่ณัฐ ณัฐวี อนุโชติ  ประธานกลุ่ม   นำนมัสการ  และร้อง backup ด้วยค่ะ   สุดท้าย รูธ ค่ะ รับพร จิตติอรุณชัย  เล่นคีย์บอร์ดในทีมนมัสการ  และนำนมัสการด้วย

Henry : อยากทราบว่ากลุ่ม TWN รวมตัวกันอย่างไรครับ

ณัฐ : เริ่มต้นคือการมารวมกัน ของกลุ่มคนที่รักการนมัสการมารวมตัวกัน   บางคนก็รู้จักกันมาก่อนแล้ว

นิว : คือ เริ่มจาก งานอธิษฐานแห่งชาติ ครั้งแรก    พี่ต้นที่เป็นผู้นำนมัสการ  ก็ส่วนใหญ่เป็นน้องเลี้ยงของพี่ต้น 

เช่น  พี่ณัฐ, ผม, พี่เค, เมล์, เก่ง    นอกนั้นก็เป็นเพื่อนที่รู้จักกัน  ก็มาตั้งวงกัน    ทีนี้มีงานอีกปีต่อมา ก็เหมือนเดิม ซ้อมกัน  พอเริ่มรับใช้ไปมันก็เริ่มผูกพัน ก็รวมตัวกันมาจนถึงปัจจุบัน   ส่วนที่เริ่มตั้ง TWN แรกๆ ก็จะมีพี่ต้น  มงคล โคเมท  แล้วก็มีรูธ, ผม, เมล์, พี่เค, พี่เก่ง, ปาล์มมี่  อ่อมีพี่โป๋ (เมธา เกรียงปริญกิจ) ด้วย และเริ่มมีการรวมตัวกับทีมนมัสการที่อื่นๆ  ก็ทำงานด้าน event กัน  ที่ผ่านมาก็มี MADDICT Fest, ค่าย Xtreme, สัมมนานมัสการพลิกฟื้นชีวิต  ก็มีอาจารย์คริส โบวอเตอร์มาเป็นวิทยากรหลัก  แล้วปีต่อมาก็มีค่ายทีมนมัสการ  มีงานฟื้นฟู  จนล่าสุด  ก็มี worship club  ที่นัดมีตติ้งกันทุกเดือนก็มาเรื่อย จนถึงตอนนี้ครับ

รูธ : บางที มันก็เหมือนเอาของมาปล่อยกันนะ (ฮา) ที่นี่เนี่ย แบบอะไรที่คริสตจักรทำไม่ได้ไง มานี่ก็เต็มที่ได้ เพราะพูดภาษาเดียวกัน

ณัฐ: คือต้องบอกว่า  TWN ค่อนข้างเปิดกว้าง  เหมือนกับว่าเราสามารถนมัสการได้  โดยที่เราไม่ได้จำกัดอยู่ที่รูปแบบ  ว่าจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้  ไม่ได้มีกรอบ  ตราบใดที่ไม่ได้ผิดพระคัมภีร์  คือเราให้พระวิญญาณนำมากกว่า  ไม่ได้จำกัดว่า  ต้องเป็นอย่างนั้น  อย่างนี้

Henry : รับใช้งานนมัสการมา มองภาพการนมัสการเป็นอย่างไรบ้างครับ

รูธ : คือ ออกตัวก่อน ปัจจุบันพี่เองก็ทำงานด้านการนมัสการอยู่ใน คริสตจักร ก็เห็นว่า การนมัสการพัฒนาขึ้นจากสมัยแรกมาก   อาจารย์ที่ โบสถ์ เริ่มเพิ่มรูปแบบ การนมัสการ เข้ามา หรือ นำเพลง  Hymn มาใช้เพิ่มจากรูปแบบ เดิมๆ  ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนมากขึ้น ที่เห็นหลักๆ คือ คนเข้าใจและเปิดใจกับ การนมัสการมากขึ้น

ณัฐ : (เสริม) คือต้องบอกว่า  ความเข้าใจในเรื่องของการนมัสการสำหรับสมาชิกทั่วไป หรือ บางคริสตจักร  อาจ

เข้าใจแค่ว่า  นมัสการคือ  การรวมพล  การเตรียมใจ  การร้องเพลงก่อนเทศนา    แต่ปัจจุบันนี้  ก็เห็นความก้าวหน้ามากขึ้น  คนเห็นความสำคัญของการนมัสการมากขึ้น  มีการพยากรณ์ หรือ เผยพระวจนะ  เกี่ยวกับการนมัสการ    เช่นเมื่อครั้งที่อ.ชัค เพียร์ซ มาเมืองไทย  มีการเผยพระวจนะว่า  จะมีการนมัสการ 40 วัน 40 คืน  และฝนจะตก  และพระเจ้าจะฟื้นฟูประเทศไทย  มีการสัมมนา  การสอนในเรื่องการนมัสการมากขึ้น   ส่วนตัวพี่เอง  พี่มองว่าการนมัสการไม่ใช่ แค่การเล่นดนตรี แต่ มันคือการทำทุกอย่างด้วยท่าทีที่ตอบสนองต่อการเรียกของพระเจ้า  และถวายเกียรติพระเจ้า     แต่ต้องบอกว่า  ไม่ใช่เราจะมุ่งเน้นที่เรื่องนมัสการอย่างเดียว  แล้วไม่สนใจอย่างอื่นเลย  เช่น  มีคนเดือดร้อน  ต้องการความช่วยเหลือ  เรานมัสการอย่างเดียว  แต่ไม่ทำอะไร  แล้วคนจะรู้จักพระเจ้าได้ไง  คนจะมานมัสการพระเจ้าได้อย่างไร   เราควรให้ความรักของเราออกมาเป็นการกระทำ   แม้คนที่ไม่เชื่อ  เมื่อเค้าเห็นสิ่งที่เราทำ   และเค้าเห็นการนมัสการของเรา  เค้าก็จะมาถึงพระเจ้าได้

นิว :  เสริมที่พี่ณัฐพูดนะ ผมเห็นด้วย อย่างค่ายปีนึง ของโบสถ์ของ Matt Redman นอกจากการเล่นดนตรีนมัสการแล้ว เค้ายังให้ออกไปทำสิ่งต่างๆ ให้สังคมด้วย อีกเรื่องนึง คือ ผมเชื่อว่าความรู้ในเรื่องการนมัสการในคนไทยนี่เพียงพอแล้วล่ะ   เพียงแค่ว่าเราจะเอาสิ่งเหล่านี้ ไปขยายและทำให้มันเกิดขึ้นในประเทศนี้ได้อย่างไร

ณัฐ : เรามีการสัมมนาต่างๆ เยอะมาก ด้านนมัสการ เชื่อว่าคนไทยเริ่มเข้าใจการนมัสการแล้ ทีนี้ส่วนที่ พี่มองคือ

เราควรกระจายสิ่งเหล่านี้ให้กับคริสตจักรในต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะการสัมมนาส่วนมาก็ที่กรุงเทพ   การสัมมนาส่วนใหญ่  ใช้วิทยากรต่างประเทศ  หรือใช้ของที่ดี   แต่คริสตจักรตามต่างจังหวัด  หรือที่ห่างไกลบางที่  เค้าไม่ได้มี  หรือ ไม่สามารถซื้อของตามที่เราสอนได้  ดังนั้น  การที่เขามาเรียน  เขากลับไป  บางครั้งเขาใช้ไม่ได้  หน้าที่ของเรา  ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างเสริมศักยภาพของทีมนมัสการเท่านั้น   แต่เราควรให้ความเข้าใจกับสมาชิกด้วย  อย่าคาดหวังว่าสมาชิกจะเข้าใจเรื่องการนมัสการได้เอง  เพียงแค่เขามานั่งอยู่ในการนมัสการ    เราควรสอนให้สมาชิกเข้าใจ  เช่น  ทำไมต้องปรบมือ  ทำไมต้องกระโดด  ทำไมเราสรรเสริญพระเจ้า    ถ้ามีความเข้าใจมากขึ้น  การนมัสการก็เคลื่อนมากขึ้นทั้งในโบสถ์  และทั้งประเทศเรา

รูธ : เราตั้งใจว่า  เราจะประสานงาน  และทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ ที่มีอยู่  เช่น  True Worshipper  เราก็ได้มีการคุยกับ อาจารย์ยินดี จังแล้ว  ว่าเราควรจะร่วมกันรับใช้ในเรื่องการนมัสการอย่างไร       ท่านก็เอา เรื่องเข้าที่ประชุม ซึ่งก็น่าจะโอเค เป็นการทำงานร่วมกัน   อย่างถ้าทางนั้นจัดสัมมนาเราก็ช่วยประชาสัมพันธ์หรือ ไปร่วมงาน   ต่อไปงานนมัสการก็จะเชื่อมกันไปมาอย่างนี้

ณัฐ:   คือเราต้องมองว่า  เราไม่ใช่คู่แข่งกัน  แต่ละคนก็ทำตามการทรงเรียกที่พระเจ้าเรียกต่างกัน  แต่มันก็คืองานเดียวกัน  งานของพระเจ้ามีมาก  เราน่าจะช่วยกันทำ  ไม่แย่งกันเอง  แต่ร่วมมือกันมากกว่า  ร่วมมือกัน  เราก็จะทำได้มากกว่าต่างคนต่างทำ  หรือทำคนเดียว

Henry : มีเพลงนัมสการที่ชอบมั้ยครับ?

นิว : ผมชอบเพลง ฮิม ที่ชื่อ Be Thou My Vision จริงๆ มันเป็นกวี แล้วมีคนมาใส่ทำนองลงไป ผมว่าเพลง ฮิม มันอมตะ คือใช้ได้ในทุกสถานการณ์

ณัฐ : หลายเพลงอยู่ มันขึ้นกับสถานการณ์  มันก็เหมือนกับข้อพระคัมภีร์อะค่ะ  เพลงมันจะมา  เวลาที่เราต้องการ เช่นเวลาที่เราไม่ไหวแล้ว  แห้งมาก  หมดแรง  ก็นึกถึงเพลง Desert Song  ของ Hillsong  บางทีเปิดวนเป็นสิบรอบ  แล้วก็ ok  ชั้นไปต่อได้แล้ว  หรือ Blessed be the name  ก็จะใช้ตอนที่แบบ  โห  ปัญหาเยอะ  รุมเร้า   แต่ชั้นก็ยังไม่หยุดจะนมัสการนะ    เยอะค่ะ  ชอบหลายเพลงมาก  (นิวแซว: สายบู๊นะเนี่ย)

รูธ : อืม ก็ชอบหลายเพลงนะ 

Henry : คิดยังไงกะ Thailand One Voice

นิว : ดีมากเลยครับ คือปัญหาเรื่องเนื้อเพลงเราก็รู้กันอยู่ละ แต่ถ้าเรามีแหล่งที่สามารถนำเพลงมาใช้ได้ก็จะช่วยในการนมัสการได้เยอะ  เวลาต้องการเพลงใหม่ก็เอาจากที่นี่แหละไปปล่อย

ณัฐ : คืออยากให้มีการแปลมากขึ้น และก็อยากให้มีการเผยแพร่เยอะขึ้นกว่านี้

รูธ : เสนอว่าถ้าเรา สามารถ link web ของ Thailand One Voice เข้ากับ Facebook พอกด Like ก็จะขึ้นบน Wall ก็น่าจะเป็นทางนึง  ชุมชนในนั้นก็จะรู้ทันที และอยากให้ทำสไลด์ให้น่าสนใจเพื่อคนจะได้เข้ามาดู หรือ ใน Worship Club ก็ให้  TOV มานำเสนอเพลงที่แปลใหม่เดือนละครั้ง  ก็นี่เป็นแนวทางที่นำเสนอนะคะ

Henry : สุดท้ายละครับ ฝากอะไรให้กับผู้อ่านครับ

: (ขออนุญาตรวมนะครับ เนื่องจากพูดเหมือนกันเป๊ะ)  เชื่อว่าคนที่ได้อ่านจะได้ร่วมงานกับเราในเร็ววันนี้ ^^

ครับ ขอบคุณสำหรับ พี่ณัฐ, พี่นิว, และพี่รูธ แห่ง Thailand Worship Network นะครับที่มาเป็นพรกับเราเชื่อว่าผู้อ่านคงได้รับสิ่งดีๆ กลับไปด้วยนะครับแล้วพบกันใหม่ กับ TOV Interview ...God Bless